ใครรู้จัก โรงแรม The Racha บ้าง? เป็นโรงแรมสไตล์โมเดิร์น ตัวตึกสีขาว ตั้งอยู่หน้าหาดทรายขาวละเอียด บนเกาะราชาใหญ่ ใช้เวลาเดินทางกับสปีดโบทรอบละ 40 นาที เป็นรีสอร์ทที่ค่อนข้างดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากตัวเกาะราชาเองเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่หลงเหลืออยู่โดยไม่โดนทำลายล้างเหมือนที่อื่นๆในภูเก็ต
ส่วนหนู…ชื่อ “เลดี้ ” เป็น Blythe รุ่น Limited Edition ที่ชอบเที่ยวเมื่อมีโอกาส แม่บอกถ้าคนชอบหนูเยอะ แม่จะพาหนูไปรีวิวที่เที่ยวอีกหลายๆที่ วันนี้เลดี้เดินทางมาถึง อ่าวฉลอง เพื่อมาออฟฟิศของโรงแรม The Racha และทำการ Check In กันก่อน
ที่นี่ Check In จากออฟฟิศบนฝั่ง เมื่อไปถึงเกาะ สามารถรับกุญแจและตรงเข้าห้องได้เลย พี่ๆพนักงาน เอาผ้าเย็นกับน้ำมาเสิร์ฟ พร้อมเอาเซรามิค ใส่น้ำมันหอม 3 กลิ่นมาให้เลือก ระหว่าง มะลิ ลาเวนเดอร์ ตะไคร้หอม เราชอบกลิ่นไหน ให้แจ้งไว้ เมื่อไปถึงห้องพักบนเกาะ ห้องที่เราพักจะถูกจุดน้ำมันหอมระเหยรอไว้รวมถึง ยาสระผม สบู่ โลชั่น ทุกอย่างจัดให้จากกลิ่นที่เราเลือกนั่นเอง เลดี้เลือกมะลิค่ะ ไทยๆดี
เลือกเสร็จแล้วนั่งรอเรือมารับค่ะ การจองเรือ ต้องจองสปีดโบทของทางรีสอร์ทเท่านั้น และควรจองเรือล่วงหน้า เพื่อกันเรือเต็ม เพราะถ้าเรือเต็มต้องรอรอบต่อไปทันที
ไปเกาะราชา มี 3 รอบต่อวัน 12.00 , 14.00 , 17.00
กลับมาท่าเรืออ่าวฉลอง มี 3 รอบเช่นกัน 09.00 , 11.30 , 16.00
ระหว่างรอมาเช็คความพร้อม มาทะเล เตรียมอะไรมาบ้าง เลดี้พามาครบ ทั้งแว่นกันแดด,ชุดว่ายน้ำ,โลชั่นกันแดด,น้ำดื่ม รองเท้าแตะ บีชแบก หนังสืออ่านเล่น ขนม กล้องถ่ายรูป ผ้าเช็ดตัว เอาติดมาด้วยแล้วแต่ความชอบ เพราะหาซื้อเอาบนเกาะ แพงนะจะบอกให้
…และแล้วถึงเวลาออกเดินทาง…ขึ้นเรือแล้ว หาที่นั่งให้เรียบร้อย ใส่ชูชีพด้วยนะคะ ( เลดี้ตัวเล็กไปหน่อย ไม่มีไซส์ตุ๊กตาค่ะ )
เลดี้แวะมาทักทายกัปตันค่ะ ผู้ที่ได้รับใบรับรองการขับเรือมาแล้ว กัปตันบอก วันอากาศดีๆคลื่นไม่แรง การเดินทางจะใช้เวลาไม่นานเลย ถ้าวันที่มีคลื่นสูง กัปตันจะต้องขับเรือด้วยความระมัดระวัง แถมต้องขับหลบคลื่น อาจทำให้การเดินทางล่าช้าไปบ้าง
เกาะราชา … จะแบ่งการเข้า-ออก เป็นสองฝั่ง
- ฝั่งหน้าหาดปฏก เข้าฝั่งนี้ได้ต้องเป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศดี คลื่นเรียบ ท่าเรือกลางทะเลทุ่นลอยน้ำ ที่เราเรียกกันว่า ” โป๊ะ ” จะตั้งอยู่หน้าโรงแรม The Racha พอดี ช่วงนั้นลมจะไม่เข้าฝั่งหน้าหาดเลย ทำให้ทะเลเรียบ น้ำไม่ขุ่น ทะเลจะเป็นสีมรกต
- ฝั่งหลังหาด คือ อ่าวสยาม ที่โรงแรมจะย้ายโป๊ะ ไปเมื่อเข้าสู่ชวงมรสุม เนื่องจากช่วงนั้น ทะเลมีคลื่นสูง ลมเปลี่ยนทิศทางและจัดเต็มฝั่งหน้าหาด ทำให้โป๊ะ สะบัดเป็นงู

โป๊ะที่พูดถึงคือทางเดินสีฟ้าๆข้างหลังนี่ล่ะค่ะ เดินบนโป๊ะกับคนหมู่มากต้องระวังอาจโดนเบียดตกน้ำได้
เลดี้มาช่วงฤดูมรสุมแต่อากาศยังดีอยู่ เรือวิ่งสบาย มาถึงทางด้านหลังเกาะ น้ำรอบเกาะเป็นสีมรกต เมื่อโป๊ะย้ายมาฝั่งอ่าวสยาม โรงแรม The Racha ที่อยู่หน้าหาด ได้จัดรถ รับ-ส่ง บริการแขกที่มาพักในโรงแรม เป็น รถแทรม ข้อดีของการนั่งรถแทรมก็คือ เราจะได้ผ่านทัศนียภาพที่เป็นชนบท มีนา มีสวน มีควาย
ทะเลที่นี่สวยมาก ดื่มด่ำความสวยได้ไม่ต่างจากมัลดีฟท์ มาถึงเหนื่อยๆ ดื่มน้ำให้ชื่นใจและตรงเข้าห้องพัก
Deluxe Villa เป็นห้องแบบเริ่มต้นของโรงแรม ถึงจะขั้นเริ่มต้น ราคาก็ปาดเหงื่อแล้ว แต่ขอแอบกระซิบ ช่วงเดือน พฤษภาคม ถึง ตุลาคม มีโปรโมชั่นให้คนไทยด้วยนะ ห้องแบบที่เลดี้พัก ราคา 5,000 กว่าบาท
ทุกห้องมีระเบียงและไอพอดให้ยืมได้ด้วยนะ ห้องอาบน้ำให้บรรยากาศดี๊ดี มองออกไปเห็นข้างนอกเป็น ที่เปิดโล่งด้วยสามารถอาบในห้อง หรือ นอกห้องก็ได้
เจ้ากบเขียวตัวนี้ เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม ถ้าเอาวางไว้ในกล่องหน้าห้องก็คือ Do Not Disturb หรือ ห้ามรบกวนนั่นเอง
เดินออกไปสำรวจโรงแรม จะพบว่ามีป้ายบอกทางหนีสึนามิอยู่ทุกที่ เพื่อความปลอดภัยของผู้มาพัก ทางหนีจะขึ้นเขาสูงขึ้นเรื่อย รอดแน่นอนถ้าคลื่นไม่ใหญ่แบบทำลายล้างโลก
เมื่อความหิวมาเยือน เราก็ออกทานอาหารกัน มาถึงห้องอาหาร Earth Cafe สั่งอาหารเที่ยงสไตล์ไทยมากิน
หลังจากนั้น พาไปทำสปาที่ Anumba Spa
และ ไฮไลท์ของ The Racha คือสระว่ายน้ำ Main Pool ที่ต้องเดินขึ้นบันไดไปบนตัวตึก จากสระสามารถมองเห็นหาดหน้าโรงแรมจากมุมสูง ไม่กล้าลงน้ำกลัวผมเปียก เลยนอนอาบแดดเอาซะเกือบดำ
กิจกรรมนอกเหนือจากนี้ ก็เป็นกิจกรรมสปอร์ตกับกิจกรรมทางน้ำแล้ว มีทั้ง ขับ ATV, Scuba Diving, Snorkeling ดูปลา, พายเรือคายัคในทะเล
นอกจากกิจกรรมในรีสอร์ท คือการขึ้นจุดชมวิว เพื่อดูพระอาทิตย์ตก ในเวลาเกือบ 18.30 เราจะได้เห็นฉากพระอาทิตย์ตกแบบในหนัง ของจริงจากเกาะราชา
ก่อนอำลากันไป แนะนำร้านอาหารค่ำชื่อ Sunset Beach จะมีนักดนตรีชาว Philippines เล่นดนตรีให้ฟัง
ส่วนเลดี้… หมดพลังแล้วเพียงเท่านี้ ไม่ได้เก็บภาพตอนกลางคืนมาให้ดู ใครสนใจพักลองตามรีวิวไปได้นะคะ คราวหน้า เลดี้จะแวะมาเขียนเรื่องอื่นอีกจ้า